การเรียนรู้การเป้นเจ้าธุรกิจระดับโลกได้
หลายคนอาจมีความฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการ หรือมีธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะคิดว่าจะมีอิสระ
และสามารถสร้างรายได้ได้ดีกว่าการทำงานรับเงินเดือน ซึ่งการจะประสบความสำเร็จแบบที่ฝันนั้นต้องใช้เวลา ความรู้ ความสามารถ และความพยายามมากทีเดียว แต่คุณรู้ไหมว่า จริง ๆ เราทุกคนก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่าย ๆ แม้แต่ธุรกิจชื่อดังระดับโลก อย่าง Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิงที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ Moderna เจ้าของนวัตกรรมวัคซีน mRNA ป้องกันโควิด-19 หรือ Amazon เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เป็นเจ้าของธุรกิจที่เติบโตดี ผ่านกองทุนรวม
การลงทุนในกองทุนรวมเป็นหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยสร้างโอกาสทำกำไรจากการเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยไม่ติดข้อจำกัดที่ต้องกังวล เช่น อายุน้อยยังไม่มีประสบการณ์เรื่องธุรกิจ ไม่มีความเชี่ยวชาญกลัวจะแข่งขันยาก และที่สำคัญไม่มีเงินก้อนใหญ่ที่จะเริ่มสร้างกิจการ เพราะสำหรับกองทุนรวม ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ มีความรู้เรื่องธุรกิจ หรือมีเงินลงทุนมาก-น้อยแค่ไหน ปัจจัยเหล่านี้แทบไม่มีความสำคัญเลย เพราอะไร…
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวม
- สบายใจ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคอยบริหารและดูแลกองทุนรวมให้มูลค่าเติบโตขึ้น
- กองทุนรวมมีหลากหลายประเภท หลากหลายนโยบายการลงทุนให้เลือกได้ตามความสนใจ และระดับความเสี่ยงที่รับได้
- แค่หลักร้อย ก็เริ่มซื้อกองทุน เริ่มเป็นเจ้าของธุรกิจในฝันได้
นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนรวมในยุคนี้มีความสะดวกอย่างมาก อยู่ที่ไหนก็จัดการการลงทุนได้ด้วยตัวเอง โดยใช้ KMA-Krungsri Mobile App ทำได้ทั้งเปิดบัญชี ซื้อ-ขายกองทุนรวม และดูพอร์ตการลงทุนได้ทุกที่ ทุกเวลา
ลองเป็นเจ้าของธุรกิจระดับโลกผ่าน กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund) คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามความสนใจ อยากลงทุนในตลาดของประเทศไหน ประเภทธุรกิจอะไร ก็มีให้เลือกมากมาย อาทิ อี-คอมเมิร์ซ พลังงานทดแทน นวัตกรรมทางการแพทย์ เป็นต้น
กองทุนรวมตัวเด็ดที่อยากแนะนำ เป็นตัวเลือกสำหรับคุณ
- KFGG-A ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตที่สอดคล้องไปกับกระแสโลกาภิวัฒน์และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
- ONE-GECOM ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจ หรือมีรายได้ หรือได้รับประโยชน์จากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-commerce)
- TNEXTGEN ลงทุนใน “นวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต” ที่จะพลิกโฉมเทคโนโลยีสู่โลกใบใหม่ โดยเน้นบริษัทที่ทำธุรกิจในกลุ่ม Next Generation Internet เช่น Cloud Computing, Big Data, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Internet of Things (IoT)
- TGHDIGI ลงทุนในบริษัททั่วโลกที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Digital Health)
- K-CHANGE-A (A) ลงทุนในหุ้นบริษัทด้านนวัตกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมโลกทั่วโลก ที่มีการดำเนินธุรกิจซึ่งส่งผลบวกต่อสังคม (Positive Impact) หรือสนับสนุนให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ อย่างยั่งยืนในระยะยาว
อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ceflaarredamenti.com อัพเดตทุกสัปดาห์
