การตอกแชมป์เปี้ยนส์ลีกที่แมนเชสเตอร์ซิตี้อาจนำผู้จัดการไปสู่งานในบราซิลและเร่งการเปลี่ยนไปสู่เยาวชน

“เราต้องพูดความจริง” โทนี่ โครส กล่าว และความจริงก็เจ็บปวด ไม่มีทางหนีได้อีกแล้ว ไม่ใช่ครั้งนี้ “ความพ่ายแพ้ครั้งนี้สมควรได้รับอย่างยิ่ง” มิดฟิลด์รายนี้ยอมรับเมื่อในที่สุดมันก็จบลง ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น เรอัล มาดริดก็สามารถทำได้ คืนก่อนเกมแชมเปียนส์ลีกรอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง คาร์โล อันเชล็อตติ รวบรวมนักเตะของเขาที่เอติฮัด สเตเดี้ยม และบอกพวกเขาว่าจะมีบางช่วงที่พวกเขาต้องรอ 20 นาที 25 หรือ 30 นาที มันเป็นแนวทางของพวกเขา และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาก่อน แค่ไม่ค่อยชอบเท่านี้ แม้แต่ครึ่งชั่วโมงก็กลายเป็นแง่ดีอย่างสิ้นหวัง

คะแนนนั้นเพิ่งผ่านไปเมื่อโครสยิงชนคาน นี่เป็นครั้งแรกของเรอัล มาดริด และเป็นครั้งแรกที่พวกเขามีอะไรที่คล้ายกับการครองบอล ในไตรมาสแรกของชั่วโมงพวกเขาจ่ายบอลเฉลี่ยน้อยกว่าหนึ่งนาทีและไม่ได้ดีไปกว่านี้มากนัก ซิตี้ยิงได้ 9 ครั้ง และถ้าพวกเขานำแค่ 1-0 นั่นเป็นเพราะธิโบต์ กูร์กตัวส์เซฟได้ 2 ครั้งอย่างไม่ธรรมดา และในช่วงเวลานั้น ขณะที่ประตูสั่น คุณอดสงสัยไม่ได้ว่ามาดริดจะเดินหน้าทำอีกครั้งหรือไม่ 2 นาทีต่อมา แบร์นาโด ซิลวา ขึ้นนำ 2-0 นั่นจะไม่เป็นเช่นนั้น

เมื่อถูกถามว่าลูกยิงดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้หรือไม่ โครสยอมรับว่ามันอาจเป็น “เกมที่แตกต่าง” แต่ชอบการวิเคราะห์ที่กว้างกว่าซึ่งได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ครึ่งชั่วโมง? เป็นเช่นนี้ตลอดทั้งคืน ซิตี้ไม่เคยคลายการยึดเกาะ ไม่เคยปล่อยให้มีที่ว่างสำหรับปาฏิหารย์ครั้งใหม่ และมาดริดไม่เคยพบหนทางที่จะแย่งชิงการควบคุม จูเลียน อัลวาเรซทำประตูที่สี่ในนาทีที่ 91 แชมป์เปี้ยนออกไป ไม่เกิดอะไรขึ้น เพียงแค่ใช้ตรรกะ “ซิตี้เหนือกว่า” ลูก้า โมดริช กล่าว “ดีขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ” Dani Carvajal เห็นด้วย

มันคือฟุตบอล มันสามารถเกิดขึ้นได้ Ancelotti กล่าวโดยยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องดราม่าเกี่ยวกับความพ่ายแพ้และตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนต่อข้อเสนอแนะที่ทัศนคติของ Madrid เปลี่ยนไป แต่เขาไม่มีภาพลวงตาว่าเขาอยู่ที่ไหน – จริง ๆ แล้ว มันเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเขา – ตระหนักดีว่าความพ่ายแพ้นำมาซึ่งผลที่ตามมา และรู้ว่าเขาจะถูกกดดันเกี่ยวกับอนาคตของเขา เขาถูกสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการแถลงข่าวมากกว่า 100 ครั้งในฤดูกาลนี้ เขาจะไม่เป็นตอนนี้ได้อย่างไร หลังจากจบเกมทั้งฤดูกาลที่สร้างขึ้น การแข่งขันที่พวกเขาพูดกันอยู่เสมอว่าจะกำหนดอนาคตของเขา?

Ancelotti เตือนอยู่เสมอถึง “กฎที่ไม่ได้เขียนไว้” ที่บอกว่าถ้าคุณไม่ชนะ Champions League คุณจะถูกไล่ออก ถูกถามว่าเขาสามารถเข้าใจสโมสรที่สงสัยเกี่ยวกับเขาหรือไม่ “ไม่มีใครสงสัย ประธานาธิบดีชัดเจนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน” เขาตอบ ย้อนกลับไปในตอนนั้น หลังจากที่มาดริดคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ และหลังจากหลายเดือนแห่งการเก็งกำไร ฟลอเรนติโน เปเรซกล่าวว่าเขาไม่ต้องการได้ยินเกี่ยวกับอนาคตของอันเชล็อตติอีกต่อไป เขามีสัญญาจนถึงปี 2024 และนั่นก็เป็นเช่นนั้น

และถึงกระนั้นการอ้างถึงคำถามกลับไปยังประธานาธิบดีนั้นเป็นการจงใจ อีกมือหนึ่งเล่นในสถานการณ์ที่ซับซ้อนซึ่งสโมสรและโค้ชทำงานจนมุมที่อึดอัดซึ่งไม่เหมาะกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแท้จริง Ancelotti ต้องการเป็นผู้จัดการบราซิลและสงสัยว่า Madrid ก็ต้องการให้เขาเป็นเช่นกัน โดยตระหนักว่าความเชื่อมั่นในตัวเขานั้นไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อถึงจุดหนึ่งคาดว่ากระสอบจะไม่เป็นที่ต้อนรับเขาเลย การลาออกจะไม่เป็นที่ต้อนรับพวกเขาเลย แต่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการความรับผิดชอบ ดังนั้นเวลาและโอกาสจึงผ่านไปโดยที่ทั้งสองฝ่ายพูดถึงความต่อเนื่อง หากไม่ใช่ด้วยความเชื่อมั่นจำนวนมาก

เอมิลิโอ บูตราเกนโญ ผู้อำนวยการฝ่ายสถาบันสัมพันธ์ของมาดริดเมื่อคืนวันพุธเรียกอันเชล็อตติว่าเป็นโค้ชที่ “น่าทึ่ง” ซึ่ง “มีสัญญา” แต่ขาดการรับประกันว่าเขาไม่มีอำนาจที่จะให้ และข้อสงสัยอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน

มาดริดสละตำแหน่งจ่าฝูงของลีกก่อนเวลา โดยมีแต้มตามหลังบาร์เซโลน่า 14 แต้ม และความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ได้ผิดไปจาก สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือแม้กระทั่งฤดูกาลที่แล้ว ไม่ใช่การล่มสลายอย่างน่าใจหาย ที่ได้รับกลับมาตอนนี้, ความรู้สึกว่าบางทีนี่เป็นเพราะ, ผูกพันที่จะเกิดขึ้นในบางจุด.

เมื่อคืนที่ผ่านมา กูร์กตัวส์พูดถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ล้มมาดริดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไม่ใช่เรื่องนี้ ขณะที่เป๊ป กวาร์ดิโอลาพูดถึงเรื่องที่โครสยอมรับว่ามาดริดอาจแพ้ 10-1 ในเลกแรกที่เอติฮัดเมื่อปีที่แล้ว สำหรับเกมเลกที่สองนั้นยังคงยากที่จะเชื่อและยังคงเจ็บปวด: โค้ชของซิตี้พูดถึงความเจ็บปวดที่ทีมของเขาแบกรับ ความปรารถนาความยุติธรรมที่ผลักดันพวกเขา ไม่ใช่แค่เกมกับซิตี้เมื่อปีที่แล้ว ในปาร์ก เดส์ แพรงส์ เปแอสเชยิงได้ 22 ครั้งเป็น 3 ครั้ง จากนั้นอีก 21 ครั้งที่เบร์นาเบว แม้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเป็นผลงานเกมเยือนที่ดีที่สุดของมาดริด เชลซีนำ 20 แต้ม จากนั้นทีมของโธมัส ทูเคิ่ลมี 29 แต้มที่เบร์นาเบว ซิตี้จัดการได้มากกว่า 30 ตลอดสองขา และในรอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูลนำ 23 ประตูเป็น 3 ประตูของมาดริด 9-1 ตามเป้า

บางครั้งมันก็ท้าทายการวิเคราะห์ การพูดถึงเรื่องลึกลับและปาฏิหาริย์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็ยังมีความอดทน ความสามารถในการต้านทาน พวกเขาอาจไม่ใช่ทีมที่มีระบบ แต่มาดริดทำได้ดีหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นคือการรอคอย “จะมีบางครั้งที่คุณต้องยอมรับว่าคู่ต่อสู้ของคุณดีกว่า” โครสกล่าวแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนควบคู่ไปกับความมั่นใจสูงสุดว่าช่วงเวลาของพวกเขาจะมาถึง และพวกเขามีคุณภาพและคาแร็คเตอร์ที่จะคว้าพวกเขาไว้

ตราบใดที่พวกเขาพบวิธี ไม่เป็นไร แต่คราวนี้พวกเขาไม่ได้ ครั้งนี้ไม่มีทางหวนกลับ ความกดดันของซิตี้ทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก คราวนี้บางคนดูอายุของพวกเขา หรืออย่างน้อยก็กลายเป็นประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หลังจาก 4-0 ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อคืนนี้ ลูก้า โมดริชอายุ 37 ปี, คาริม เบนเซมา 35 ปี, โครส 33 ปี, ดานี่ คาร์วาฆัล 31 ปี การพูดคุยตอนนี้เป็นเรื่องของ การเปลี่ยนแปลง, คนรุ่นใหม่และพรสวรรค์บางส่วนอยู่ที่นั่น: Eduardo Camavinga อายุ 20 ปี, Vinícius Júnior และ Rodrygo อายุ 22 ปี, Aurélien Tchouaméni อายุ 23 ปี, Federico Valverde อายุ 24 ปี, Éder Militão อายุ 25 ปี พวกเขามั่นใจในการเซ็นสัญญากับ Jude Bellingham ซึ่งอายุ 19 ปี แน่นอนว่า Kylian Mbappé ไม่ได้มาเมื่อพวกเขาคิดว่าเขาจะมา

วิวัฒนาการนั้นกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะง่าย Ancelotti กล่าวว่าเขาได้ขอ “ความอดทน” จากผู้เล่นอายุน้อยของเขาและ “ความเข้าใจ” จากคนที่อายุมากกว่าเมื่อมีการแบ่งปันโอกาส จาก 34 เกมลีกในฤดูกาลนี้ โครสออกสตาร์ท 22 นัด โมดริช 17 นัด และเบนเซม่า 21 นัด แม้ว่าชาวฝรั่งเศสจะมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังห่างไกลจากฟอร์มในฤดูกาลที่แล้ว แม้กระทั่งในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลที่แล้ว คามาวินก้าก็ได้รับการแนะนำในแต่ละเลกที่สอง ซึ่งชี้ขาดทุกครั้ง และบทบาทลูกผสมของบัลเบร์เด้ก็สร้างพลังให้กับกองกลาง หลังจบเกมซิตี้ คาเซมิโร, โครส และโมดริชถูกถอดถอนออกไป

พวกเขากลับมาในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมาดริดเป็นฝ่ายชนะ กลับมาอีกครั้งในฤดูกาลนี้เช่นกันและสมน้ำสมเนื้อ ตอนนี้มาดริดมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว อยู่ที่ 11 ในรอบ 13 ปี ในฤดูกาลที่พวกเขายิงลิเวอร์พูลได้ 6 ประตู เชลซี 4 ประตู ความพ่ายแพ้มักจะเร่งให้ทุกอย่างเร็วขึ้น โดยเฉพาะสิ่งนี้ ทำลายล้างมาก เด็ดขาดมาก วินิซิอุสยืนยันว่า “สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นในปีหน้า” และสิ่งล่อใจคือการฉีกมันทั้งหมด แต่นั่นก็เป็นความจริงของพวกเขาเช่นกัน เช่นเดียวกับที่ทีมซิตี้ซึ่งดีกว่าพวกเขาที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ดีกว่าคนอื่นๆ ที่นั่นเช่นกัน โดยทำได้ 7 ประตูกับไลป์ซิก, 6 ประตูกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 4 ประตูกับลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล, 3 ประตูกับบาเยิร์น

“เราต้องหลอมรวมความสูญเสียนี้ให้ได้ก่อน จากนั้นเราจะได้เห็นกัน ตอนนี้ผมไม่ต้องการลงลึกไปมากกว่านี้” โมดริชกล่าว “เมื่อเรอัล มาดริดแพ้ ทุกอย่างจะยิ่งใหญ่มาก การวิเคราะห์มากมาย คำวิจารณ์มากมาย เราเคยชินมันจะไม่จมเรา ทีมนี้ยังมีอะไรให้อีกมาก”

โครสกล่าวว่า: “ผมไม่สามารถพูดได้ว่าเรามีแคมเปญแชมเปี้ยนส์ลีกที่แย่ เราเล่นเกมที่ดีมาหลายเกม และเราเหลืออีกแค่เกมเดียวจากนัดชิงชนะเลิศ ในฐานะโค้ชหรือผู้เล่น คุณเซ็นสัญญากับสโมสรแห่งนี้ และคุณรู้ว่าพวกเขาคาดหวังสูงสุด

“โชคดีที่เราทำได้สูงสุดบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกได้ตลอด หลายทีมจะแลกเปลี่ยนกับเรา ฉันไม่ต้องการความพ่ายแพ้เพื่อชื่นชมสิ่งที่เราทำ ฉันรู้เสมอว่าสิ่งที่เราทำคือความบ้า ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ยินว่าเป็นจุดสิ้นสุดของยุคคือปี 2019 ซึ่งนานมาแล้ว งั้นเราโอเค”

---

อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ceflaarredamenti.com อัพเดตทุกสัปดาห์